เนื้อหาบทความนี้เป็นส่วนหนึ่งของ"หนังสือเทคนิคการเดาศัพท์ English How to guess difficult words โดย ฝ่ายวิชาการพีบีซี PBC ราคา 40 บาท" ในหนังสือจะมีวิธีเดาศัพท์ ตัวอย่างประโยคและแบบทดสอบด้วยค่ะ ถ้าจะศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมลองไปซื้ออ่านกันได้นะค่ะ และเนื้อหานี้ก็สามารถใช้จนถึงระดับมหาวิทยาลัยหรือช่วงทำงานก็ได้ลองศึกษาดูนะค่ะ
การเดาความหมายของศัพท์จากข้อความชี้้แนะ [Context Clues]
ข้อความชี้แนะ [Context Clues] หมายถึง ข้อความหรือคำศัพท์หลายๆ คำซึ่งอยู่แวดล้อมคำศัพท์ที่ผู้อ่านไม่รู้ความหมาย แล้วทำให้ผู้อ่านเดาความหมายของศัพท์ที่ไม่รู้นั้นได้อย่างถูกต้องตามบริบทที่ศัพท์ตัวนั้นปรากฏอยู่ ผู้อ่านควรฝึกหัดการเดาศัพท์จากข้อความชี้แนะนับได้ว่าเป็นประโยชน์อย่างยิ่งในการทำข้อสอบการอ่าน
ประเภทใหญ่ๆ ของ Context Clues
- Definition = การให้คำนิยาม
- Example = การยกตัวอย่าง
- Restatement = การกล่าวซ้ำ
- Modifier = การมีส่วนขยาย
- Explanation = การให้คำอธิบาย
- Similar Meaning = คำชี้แนะประเภทแสดงความคล้ายคลึงกันหรือเหมือนกัน
- Opposite Meaning = คำชี้แนะประเภทที่บอกความขัดแย้งหรือตรงข้ามกัน
- Familiar Key Word = การใช้คำที่ผู้อ่านคุ้นเคยอยู่ก่อนแล้ว
- Cause - Result = คำชี้แนะประเภทบ่งบอกความสัมพันธ์ระหว่างสาเหตุและผลลัพธ์
- Definition คือคำชี้แนะประเภทที่ให้คำนิยามหรือคำจำกัดความ เป็นการบอกความหมายของคำศัพท์ยากโดยตรง
การให้คำจำกัดความแบ่งเป็น 2 ประเภท คือ
- การอธิบายโดยตรงโดยใช้คำบ่งชี้ (signal) บอกถึงการให้คำจำกัดความ ได้แก่
to be called to be a kind of
to be defined as to be regarded as
to be known as to be the name given to
to be a type of consist of
refer to can be defined as
can be thought of may be described as
may be seen as what this means is
คำบ่งชี้ (signal) เหล่านี้ มีความหมายว่า "คือ, หมายถึง, หมายความว่า, เรียกว่า"
- การอธิบายโดยอ้อมโดยใช้เครื่องหมายวรรคตอน เป็นการอธิบายความหมายของคำศัพท์โดยใช้ข้อความหรือคำอธิบายที่อยู่ระหว่างหรือหลังเครื่องหมายวรรคตอน เพื่อบอกความหมายหรือขยายความคำศัพท์ที่อยู่หน้าเครื่องหมายนั้น เครื่องหมายวรรคตอนที่ใช้ ได้แก่ comma [,] dash [-] parentheses [( )] หรือ colon [:]
คำบ่งชี้ (signal) ที่จะบอกถึงการยกตัวอย่าง และช่วยให้ผู้อ่านเดาความหมายศัพท์ยากจากตัวอย่าง ได้แก่
with for example for instance
e.g. such such as
as such as the following as the following example
shows like including
especially these
คำชี้แนะเหล่านี้มีความหมายว่า "ได้แก่, ตัวอย่างเช่น, ยกตัวอย่างดังต่อไปนี้, โดยเฉพาะอย่างยิ่ง"
นอกจากนี้อาจใช้เครื่องหมายวรรคตอนในการยกตัวอย่าง เครื่องหมายวรรคตอนดังกล่าว ได้แก่
comma [,] dash [-] parentheses [( )]
colon [:] semi - colon [;]
3. Restatement เป็นคำชี้แนะประเภทกล่าวซ้ำหรือกล่าวย้ำ
โดยผู้เขียนใช้คำ วลี
หรืออนุประโยคที่ให้ความหมายหรือใจความเดียวกับคำยากที่คิดว่าอาจจะเกิดปัญหาแก่ผู้อ่าน
คำชี้แนะประเภทนี้ได้แก่
or
=
หรือ
that
is
=
นั่นคือ
that
is to say
= กล่าวอีกนัยหนึ่งก็คือ
in
other words
= กล่าวอีกนัยหนึ่งก็คือ
to
put in another way =
กล่าวอีกนัยหนึ่งก็คือ
และเครื่องหมายวรรคตอน ดังนี้
comma [,]
dash [-] parentheses [( )]
4. Modifier เป็นคำชี้แนะประเภทที่เป็นส่วนขยาย เป็นการตีความหมายของคำศัพท์ที่ไม่คุ้นเคยด้วยการวิเคราะห์ส่วนขยายที่ปรากฏอยู่ในข้อความแวดล้อมนั้นๆ ส่วนขยายเหล่านี้มักมีคำขึ้นต้น เช่น who, which, where, that, without หรือ วลี [phrase] ที่ขึ้นต้นด้วย verb + ing หรือ verb ช่อง 3 ตามติดคำศัพท์ที่ไม่คุ้นเคยนั้น ผู้อ่านสามารถตีความหมายยากได้จากส่วนขยาย [modifier] ที่บ่งบอกเพิ่มเติมไว้
5. Explanation คือคำชี้แนะประเภทให้คำอธิบาย เป็นคำชี้แนะที่ผู้เขียนกล่าวถึงสิ่งใดสิ่งหนึ่งที่เกิดขึ้นแล้วให้คำอธิบายต่อไปว่า ทำไมจึงเป็นเช่นนั้น เพื่อ เป็นการสนับสนุนข้อความนั้นๆ คำชี้แนะประเภทนี้ได้แก่
this is because = ซึ่งเป็นดังนี้ก็เพราะว่า
the reason for this is that = เหตุผลสำหรับสิ่งนี้ก็คือ
the cause of this is that = สาเหตุของสิ่งนี้คือ
one of the reasons is = เหตุผลประการหนึ่งก็คือ
this explains that = นี้อธิบายได้ว่า
it means that = นั่นหมายความว่า
that fact is that = ความจริงก็คือว่า
6. Similar Meaning คือคำชี้แนะประเภทที่แสดงความคล้ายคลึงกันหรือเหมือนกัน แบ่งเป็น 2 ประเภท คือ
6.1 คำชี้แนะประเภทที่แสดงความเหมือนแบบเปรียบเทียบ ได้แก่
as/as..as = เหมือนกับ
like/alike = เหมือน,คล้าย
similar to = เหมือนกับ, คล้ายกับ
resemble [v] = เหมือนกับ
as if/as though = ราวกับว่า
คำข้างล่างจะแปลความหมายเดียวกันคือ [ในทำนองเดียวกัน]
similarly [adv]
likewise [adv]
correspondingly [adv]
in the same way [adv]
in like manner [adv]
6.2 คำชี้แนะประเภทที่ไม่มีคำชี้แนะโดยชัดเจน เป็นประเภทที่ไม่มีคำชี้แนะที่แสดงการเปรียบเทียบใดๆ แต่ผู้อ่านสามารถเดาความหมายของคำศัพท์ที่ไม่คุ้นเคยได้ โดยการหาคำวลี หรือประโยค ที่มีความหมายเหมือน ซึ่งลักษณะประโยคอาจจะเป็นประโยคเงื่อนไข [if - clause] หรือประโยคแสดงเหตุผล
7. Opposite Meaning คือคำชี้แนะประเภทบอกความขัดแย้งหรือตรงกันข้าม โดยการใช้ข้อความที่เปรียบเทียบสองสิ่งในลักษณะตรงกันข้าม ถ้าเข้าใจความหมายของสิ่งหนึ่ง ก็สามารถตีความหมายของอีกสิ่งหนึ่งได้ แบ่งออกเป็น 4 ประเภท คือ
7.1 คำชี้แนะประเภทที่บ่งบอกถึงความแตกต่างหรือตรงกันข้าม ได้แก่
5. Explanation คือคำชี้แนะประเภทให้คำอธิบาย เป็นคำชี้แนะที่ผู้เขียนกล่าวถึงสิ่งใดสิ่งหนึ่งที่เกิดขึ้นแล้วให้คำอธิบายต่อไปว่า ทำไมจึงเป็นเช่นนั้น เพื่อ เป็นการสนับสนุนข้อความนั้นๆ คำชี้แนะประเภทนี้ได้แก่
this is because = ซึ่งเป็นดังนี้ก็เพราะว่า
the reason for this is that = เหตุผลสำหรับสิ่งนี้ก็คือ
the cause of this is that = สาเหตุของสิ่งนี้คือ
one of the reasons is = เหตุผลประการหนึ่งก็คือ
this explains that = นี้อธิบายได้ว่า
it means that = นั่นหมายความว่า
that fact is that = ความจริงก็คือว่า
6. Similar Meaning คือคำชี้แนะประเภทที่แสดงความคล้ายคลึงกันหรือเหมือนกัน แบ่งเป็น 2 ประเภท คือ
6.1 คำชี้แนะประเภทที่แสดงความเหมือนแบบเปรียบเทียบ ได้แก่
as/as..as = เหมือนกับ
like/alike = เหมือน,คล้าย
similar to = เหมือนกับ, คล้ายกับ
resemble [v] = เหมือนกับ
as if/as though = ราวกับว่า
คำข้างล่างจะแปลความหมายเดียวกันคือ [ในทำนองเดียวกัน]
similarly [adv]
likewise [adv]
correspondingly [adv]
in the same way [adv]
in like manner [adv]
6.2 คำชี้แนะประเภทที่ไม่มีคำชี้แนะโดยชัดเจน เป็นประเภทที่ไม่มีคำชี้แนะที่แสดงการเปรียบเทียบใดๆ แต่ผู้อ่านสามารถเดาความหมายของคำศัพท์ที่ไม่คุ้นเคยได้ โดยการหาคำวลี หรือประโยค ที่มีความหมายเหมือน ซึ่งลักษณะประโยคอาจจะเป็นประโยคเงื่อนไข [if - clause] หรือประโยคแสดงเหตุผล
7. Opposite Meaning คือคำชี้แนะประเภทบอกความขัดแย้งหรือตรงกันข้าม โดยการใช้ข้อความที่เปรียบเทียบสองสิ่งในลักษณะตรงกันข้าม ถ้าเข้าใจความหมายของสิ่งหนึ่ง ก็สามารถตีความหมายของอีกสิ่งหนึ่งได้ แบ่งออกเป็น 4 ประเภท คือ
7.1 คำชี้แนะประเภทที่บ่งบอกถึงความแตกต่างหรือตรงกันข้าม ได้แก่
- คำศัพท์ที่มีความหมายเดียวกันแปลว่า "แม้ว่า"
- although
- even though
- though
- in spite of
- despite
- คำศัพท์ที่มีความหมายเดียวกันแปลว่า "แต่"
- but
- yet
- คำศัพท์ที่มีความหมายเดียวกันแปลว่า "แต่อย่างไรก็ตาม"
- however
- nevertheless
- คำศัพท์ที่มีความหมายเดียวกันแปลว่า "ในทางตรงกันข้าม"
- on the contrary
- on the other hand
- in contrast
- คำศัพท์ที่มีความหมายเดียวกันแปลว่า "ในทางกลับกัน"
- conversely
- คำศัพท์ที่มีความหมายเดียวกันแปลว่า "ในขณะที่"
- while
- whereas
- คำศัพท์ที่มีความหมายเดียวกันแปลว่า "เปรียบเทียบกับ"
- comparing
- compared with
- one....another
- some...others
- or = หรือ
- not...but = ไม่...แต่
- rather than = มากกว่า
- instead of = แทนที่
- either...or = ไม่..ก็
- whether...or = ไม่...หรือ
8. Familiar Key Word คือคำชี้แนะประเภทคำศัพท์ข้างเคียงหรือใกล้เคียง ซึ่งผู้อ่านทราบความหมายของคำชี้แนะนี้อยู่ก่อนแล้ว ผู้อ่านจึงสามารถเดาความหมายคำศัพท์ที่ไม่คุ้นเคยได้
9. Cause & Result คือคำชี้แนะประเภทบ่งบอกถึงความสัมพันธ์ระหว่าง สาเหตุ [cause] และผลลัพธ์ที่ตามมา [result] จากสาเหตุนั้นๆ นั่นคือ เป็นคำชี้แนะที่แสดงความเป็นเหตุเป็นผลกัน ได้แก่
- คำชี้แนะที่บ่งบอกสาเหตุ
- because = เพราะว่า
- คำศัพท์ที่มีความหมายเดียวกันแปลว่า "เนื่องจาก"
- as
- because of
- due to
- owing to
- for
- since
- on account of
- now that
- คำชี้แนะที่บ่งบอกถึงผลลัพธ์
- คำศัพท์ที่มีความหมายเดียวกันแปลว่า "ดังนั้น"
- so
- therefore
- thus
- accordingly
- hence
- as a result
- consequently
- คำศัพท์ที่มีความหมายเดียวกันแปลว่า "เพื่อว่า"
- so that
- in order that
- คำศัพท์ที่มีความหมายเดียวกันแปลว่า "ผลลัพธ์ก็คือ"
- the final result is that
- with the result that
- cause [v] = เป็นสาเหตุให้เกิด
- mean [v] = นั่นหมายถึงว่า
- result in = ผลที่ตามมา, ส่งผลให้เกิด
- that is why = นั่นก็คือ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น