วันจันทร์ที่ 13 สิงหาคม พ.ศ. 2555

Basic English


              เนื้อหาบทความนี้เป็นส่วนหนึ่งของ"หนังสือเรียนลัดพูดอ่านเขียนแปลภาษาอังกฤษ โดยฝ่ายวิชาการไอคิวพลัส ราคา 165 บาท" ถ้าจะศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมลองไปซื้ออ่านกันนะค่ะ
English Alphabets   อักษรภาษาอังกฤษ
                          โดยอักษรในภาษาอังกฤษจะมีเพียง 26 ตัวอักษรน้อยกว่าในภาษาไทยที่มีถึง 44 ตัวอักษร  อักษรในภาษาอังกฤษทั้ง 26 ตัวแบ่งตามหน้าที่ได้ 2 ชนิดคือ อักษรที่เป็น พยัญชนะ และ อักษรที่เป็น สระ
  • พยัญชนะ Consonant ได้แก่ อักษรภาษาอังกฤษทั้งหมด 26 ตัวยกเว้นอักษรที่ใช้เป็นสระ 5 ตัวจึงเหลือพยัญชนะ 21 ตัว (Y เป็นพยัญชนะที่สามารถใช้เป็นสระ อี ไอ และอายได้ด้วย)
  • สระ Vowel ได้แก่ อักษรภาษาอังกฤษที่ทำหน้าที่เป็นเสียงสระ ซึ่งมี 5 ตัว คือ A(เอ) E(อี) I(ไอ) O(โอ) U(ยู) 
สำหรับอักษรทั้ง 26 ตัวมีรูปแบบนำไปใช้งานได้ 4 รูปแบบ คือ
(ขอบคุณรูปภาพจากเว็บบล็อคของคุณแมวอังอัง)
  1. แบบตัวพิมพ์ใหญ่   ใช้กับเครื่องพิมพ์เมื่อกล่าวถึง ชื่อคน สถานที่ วัน เดือน ปี ชื่อเฉพาะ เช่น ยี่ห้อสินค้า ร้านค้า ป้ายต่างๆ โดยใช้เป็นตัวนำของคำและประโยคขึ้นต้น หรืออาจใช้เป็นตัวพิมพ์ใหญ่ทั้งหมดก็ได้
  2. แบบตัวพิมพ์เล็ก ใช้ตามตัวนำหรือตัวพิมพ์ใหญ่ในประโยคหรือคำนั้น
  3. แบบตัวเขียนใหญ่    ใช้เขียนด้วยลายมือเมื่อกล่าวถึงชื่อคน  สถานที่ วัน เดือน ปี ชื่อเฉพาะต่างๆ  โดยใช้เป็นตัวนำของคำและประโยคขึ้นต้นก็ได้  
  4. แบบตัวเขียนเล็ก    ใช้เขียนด้วยลายมือเมื่อ ตามตัวนำหรือตัวเขียนในประโยคหรือคำนั้น

(ขอบคุณรูปภาพจากเว็บบล็อคของคุณแมวอังอัง)
สระ Vowel
  • A(เอ)      ตรงกับสระ      เอ, แอ, อะ, อา, ออ
  • E(อี)        ตรงกับสระ      เอ, อิ, อี
  • I(ไอ)       ตรงกับสระ      อิ, ไอ 
  • O(โอ)     ตรงกับสระ      โอ, ออ
  • U(ยู)        ตรงกับสระ     อุ, อู, อัว
ในการผสมคำบางคำ  อาจต้องใช้สระถึง 2 - 3 ตัว เป็นการเปลี่ยนเสียงและความหมายไปด้วย  ตัวอักษรที่เป็นได้ทั้งอักษรและสระ ได้แก่
  • Y(วาย)    ตรงกับสระ     ไอ, อิ, อี, อา (ที่ออกเสียงเหมือนมีตัว ย สะกดอยู่เช่น Eye อาย My มาย)
ดังนั้นการจะดูว่าอักษรที่ใช้เป็น อักษรหรือสระ และจะอ่านออกเสียงอย่างไร จึงต้องอาศัยการสังเกตและจดจำไว้เช่นกัน


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น